ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษอาร์เซน่อล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

ถือเป็นเกมที่ VAR งานชุกพอสมควร โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษลุ้นตามตีเสมอในครึ่งหลัง แต่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดไปชนเสาอย่างหน้าตาเฉย ก่อนที่ กรานิต ชาก้า จะซัดย้ำชัยให้ อาร์เซน่อล เอาชนะไปได้ 3-1 พร้อมขยับแซง สเปอร์ส ขึ้นมารั้งอันดับที่ 4 ชั่วคราว ส่วน “ปีศาจแดง” แพ้ 2 นัดรวดยังอยู่อันดับที่ 6 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2565 ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ระหว่าง อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 5 พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ของตาราง

มิเกล อาร์เตต้า พาทีม “ไอ้ปืนใหญ่” พลิกล็อกบุกชนะ เชลซี 4-2 ถึงถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในนัดกลางสัปดาห์ ทำให้พวกเขากลับมาลุ้นท็อปโฟร์เต็มตัวอีกครั้ง โดยเกมนี้แดนหน้ายังใช้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ โดยมี บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และ เอมิล สมิธ-โรว์ คอยปั้นเกมสนับสนุน

ด้าน ราล์ฟ รังนิค กุนซือ ปีศาจแดง พาทีมแพ้ ลิเวอร์พูล 0-4 นัดล่าสุด โดยเกมนี้ส่ง ราฟาแอล วาราน ออกสตาร์ตตัวจริงแทน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ส่วนเกมรุกได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงประจำการในแดนหน้า

ครึ่งแรกเล่นมาได้เพียง 2 นาที อาร์เซน่อล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ กรานิต ชาก้า เปิดบอลเข้าเขตโทษ ราฟาแอล วาราน เคลียร์บอลไม่โดน ก่อนจะมาเข้าทาง บูคาโย่ ซาก้า ที่ยืนอยู่เสาไกลได้บรรจงปั่นด้วยซ้ายไปติดเซฟของ เด เคอา ที่ปัดไปเข้าทางปืนของ นูโน่ ตาวาเรส ตามซ้ำจ่อๆไม่เหลือ

แมนยู มีโอกาสโต้กลับมาบ้าง และเกือบตีเสมอทันควัน ในนาทีที่ 6 โรนัลโด้ แทงทะลุช่องให้ แอนโธนี่ อีแลงก้า หลุดไปกดด้วยขวาในเขตโทษ แอรอน แรมส์เดล ยังคงออกมาปิดมุมได้เร็ว

จากนั้นนาทีที่ 11 แมนยู ชวดตามตีเสมอแบบน่าเสียดายจากจังหวะที่ แรมส์เดล ออกบอลจากหน้าประตูพลาดไปเข้าทาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก่อนไกลต่อให้ บรูโน่ ได้ซัดจ่อๆ แต่ กาเบรียล มากัลเญส ตามเข้ามาบล็อกบอลแฉลบเปลี่ยนทางออกหลังไป

เกมรุกของ แมนยู มาอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 20 ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ไหลบอลให้ โรนัลโด้ ในเขตโทษก่อนกลับตัดซัดด้วยซ้ายบอลยังเหินข้ามคาน

ในนาทีที่ 24 แมนยู ใกล้เคียงตีเสมออีกหน ดีโอโก้ ดาโล่ต์ กดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งไปชนคานกระดอนออกมา

อาร์เซน่อล ได้โต้กลับมา ในนาทีที่ 25 เกือบได้ลูกสองจากจังหวะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด ไขว้บอลทะลุช่องให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาแต่ยังติดเซฟของ เด เคอา

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แต่กระนั้น ในนาทีที่ 27 ทัพ “ปืนใหญ่” พลาดนำ 2-0 เมื่อ อเล็กซ์ เตลลิส เข้าปะทะใส่ บูคาโย่ ซาก้า ในกรอบ ก่อนที่บอลจะทะลักมาเข้าทางปืน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดมาซัดจ่อๆไม่เหลือ แต่ VAR ยึดประตูคืนเนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้าของ เอ็นเคเทียห์

อย่างไรก็ตาม เคร็ก พอวสัน ผู้ตัดสินไปย้อนดู VAR ด้วยตัวเองในจังหวะนี้ก่อนจะกลับมาเป่าให้จุดโทษกับ อาร์เซน่อล เนื่องจากมองว่า อเล็กซ์ เตลลิส ไปทำฟาวล์ใส่ บูคาโย่ ซาก้า ก่อนจะเป็นปีกทีมชาติอังกฤษรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ อาร์เซน่อล นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 31

นาทีที่ 34 แมนยู ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 อย่างรวดเร็วเมื่อ เนมานย่า มาติช เปิดเข้าเขตโทษให้ โรนัลโด้ สอดมาซัดโล่งๆเข้าประตูไปอย่างง่ายๆ

นาทีที่ 39 อาร์เซน่อล เกือบนำห่างอีกครั้งจากลูกยิงของ เอลเนนี่ หน้าเขตโทษบอลส่ายทำให้ เด เคอา ต้องพุ่งปัดทิ้งออกหลังไป

ช่วงทดเวลานาทีที่ 45+2 อเล็กซ์ เตลลิส ลองส่องนอกกรอบด้วยซ้าย แรมส์เดล ต้องออกแรงปัดทิ้งออกมา

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 55 แมนยู มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ นูโน่ ตาวาเรส ไปเจตนาใช้แขนกางขึ้นมาบล็อกลูกบอล แต่ว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่รับหน้าที่สังหารยิงไปชนเสาออกหลังไปพลาดให้ทีมตามตีเสมอแบบน่าเสียดาย

ในช่วงครึ่งหลังนี้ แมนยู เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่มากกว่า นาทีที่ 59 อีแลงก้า ได้ตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษ แรมส์เดล ต้องพุ่งปัดทิ้งออกหลัง

ทีมเยือนชวดตีเสมออีกหน ในนาทีที่ 60 เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดมากดด้วยขวาเน้นๆส่งบอลตุงตาข่าย แต่ถูก VAR จับเป็นลูกล้ำหน้าอีกครั้ง

นาทีที่ 63 โรนัลโด้ แทงทะลุช่องให้ ดาโลต์ หลุดมากดด้วยขวายัดเสาแรก แต่ แรมส์เดล ปัดปลายมือบอลไปชนเสาอย่างจัง

อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ได้สวนกลับมาและกลายเป็นฝ่ายนำห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ บรูโน่ ไปโดน เอลเนนี่ แย่งบอลที่หน้าเขตโทษ ก่อนไหลมาให้ กรานิต ชาก้า ได้ตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซน่อล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แอรอน แรมส์เดล – เซดริก โซอาเรส (ทาคาฮิโระ โทมิยาสุ น.90+1), เบน ไวท์, กาเบรียล มากัลเญส, นูโน่ ตาวาเรส – โมฮาเหม็ด เอลนินี่, กรานิต ชาก้า – บูคาโย่ ซาก้า (ร็อบ โฮลดิ้ง น.74), มาร์ติน โอเดการ์ด, เอมิล สมิธ-โรว์ (กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.64) – เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์

แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – ดีโอโก้ ดาโล่ต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ราฟาแอล วาราน, อเล็กซ์ เตลลิส – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.77) – แอนโธนี่ อีแลงก้า (เจสซี่ ลินการ์ด น.77), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ฆวน มาต้า น.84), เจดอน ซานโช่ – คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thetattooremovalcompany.com

Releated